สำนักผู้นำสูงสุดซัยยิด อาลี คาเมเนอี

บรรดาเจ้าหน้าที่กิจการฮัจญ์ เข้าพบท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม

เอกภาพของประชาชาติอิสลามและการเผชิญหน้ากับเหล่าซาตานคือหนึ่งในเป้าหมายของฮัจญ์

บรรดเจ้าหน้าที่กิจการฮัจญ์ พร้อมทั้งกลุ่มผู้แสวงบุญ ณ บัยตุลลอฮ์อัล-ฮะรอม เข้าพบท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี โดยท่านผู้นำถือว่า การมีมุมองที่ถูกต้องเกี่ยวกับฮัจญ์และความเข้าใจถึงความสำคัญของภารกิจนี้ มีความสำคัญอย่างยิ่ง และท่านยังได้เน้นย้ำว่า “ฮัจญ์ เป็นประเด็นสากลและเป็นประเด็นทางอารยธรรมที่มีวัตถุประสงค์ เพื่อที่จะยกฐานภาพของประชาชาติอิสลามให้มีความสูงส่ง การทำให้หัวใจของบรรดามุสลิมมีความใกล้ชิดกันและการสร้างเอกภาพในประชาชาติอิสลามในการเผชิญหน้ากับการปฏิเสธ การฉ้อฉล ความอหังการ และเจว็ดทั้งหลายในสภาพของมนุษย์และไม่ใช่มนุษย์”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังได้ยกหลักฐานจากโองการอัลกุรอาน ถือว่า กะอ์บะฮ์ เป็นแหล่งที่มาของการลุกขึ้นต่อสู้และการสร้างความมั่นคงให้กับสังคมมนุษย์ และท่านผู้นำยังได้ชี้ให้เห็นถึงผลประโยชน์ของภารกิจอันยิ่งใหญ่นี้ในโลกนี้และปรโลก โดยท่านกล่าวว่า “หากไม่มีฮัจญ์แล้วไซร้ ประชาชาติอิสลามก็จะต้องพบกับความล่มสลาย” 

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า ฮัจญ์ เป็นสถานที่รวมตัวในระดับนานาชาติและยังเป็นสถานที่นัดพบในระดับโลก และท่านยังได้ชี้ให้เห็นถึงการเชื้อเชิญของพระผู้เป็นเจ้า ที่มาจากการใช้คำว่า อันนาซ(ประชาชน) หมายถึง ประชาชนทั้งหมดที่ประกอบพิธีฮัจญ์ โดยท่านกล่าวเสริมว่า “การเชิญชวนมนุษยชาติทุกคนในประวัติศาสตร์ทั้งหมดสำหรับการเข้าร่วมในสถานที่ซึ่งถูกกำหนดและในช่วงเวลาที่ถูกกำหนดไว้ด้วยเช่นกันนั้น แสดงให้เห็นว่า การเชิญชวนของพระผู้เป็นเจ้านี้ มีเป้าหมายที่สำคัญยิ่งและมีผลประโยชน์อย่างมากมาย”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า เอกภาพของประชาชาติอิสลาม และการเผชิญหน้ากับเหล่าซาตานมารร้ายจอมอหังการ คือ หนึ่งในเป้าหมายเหล่านี้ โดยท่านกล่าวเสริมว่า “ในบรรดาผลประโยชน์ทางโลกอย่างมากมายของพิธีฮัจญ์ ก็คือ การที่ชาวมุสลิมทั้งหลายได้รวมตัวกันครั้งใหญ่ในการเผชิญหน้ากับระบอบรัฐเถื่อนไซออนิสต์และการมีแทรกแซงทางอำนาจของชาติมหาอำนาจ ถือเป็นการประกาศถึงการเข้าร่วมอย่างมีพลังอำนาจในการเผชิญหน้ากับเหล่าผู้ฉ้อฉลของโลก”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้อธิบายถึงผลประโยชน์ต่างๆทางปรโลกของพิธีฮัจญ์ โดยท่านถือว่า การกระทำในแต่ละอย่างของภารกิจนี้ เป็นหน้าต่างที่มีแสงสว่างสู่โลกแห่งความลี้ลับและทางจิตวิญญาณ และท่านผู้นำยังได้กล่าวกับบรรดาผู้แสวงบุญ ณ บัยตุลลอฮ์ อัล-ฮะรอม ว่า “พวกท่านทั้งหลาย จะต้องมีความนอบน้อมด้วยการขอดุอาอ์ การมีความบริสุทธิ์ใจและการแสดงถึงความเป็นบ่าวที่แท้จริง และการชำระล้างหัวใจของพวกท่านให้สะอาดบริสุทธิ์ โดยปราศจากการต่อต้านในการรำลึกถึงพระผู้เป็นเจ้า”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การมีมุมมองในระหว่างประเทศและเหนือพรมแดนของฮัจญ์ เป็นประเด็นขั้นพื้นฐาน และท่านยังได้ชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นในการรับรู้เกี่ยวกับปัญหาต่างๆของโลกและสถานการณ์ของประชาชาติมุสลิม โดยท่านกล่าวเสริมว่า “ช่วงสัปดาห์ของฮัจญ์ ถือเป็นโอกาสอันทรงคุณค่าอย่างยิ่งในการทำความรู้จักกับประชาชาติทั้งหลายและปัญหาต่างๆของโลก เพื่อที่จะออกห่างจากข่าวเท็จที่ได้รับจากสื่อและสำนักข่าวต่างๆที่โป้ปดมดเท็จ โดยทำให้มนุษย์ได้ออกห่างจากความจริงที่เกิดขึ้นในโลกและอย่าได้หลงทางเป็นอันขาด”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การไม่รับรู้ถึงโลก เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่จะทำให้ทุกๆสังคมต้องพบกับความพินาศ โดยท่านกล่าวเสริมว่า “ตามที่ข้าพเจ้าเคยกล่าวไปหลายครั้งแล้ว ประชาชนทั้งหมดทุกคนและบรรดาเจ้าหน้าที่ จะต้องรู้จักถึงเป้าหมาย วิธีการ นโยบายต่างๆ จุดแข็งและจุดอ่อนของศัตรูอย่างจริงจัง ซึ่งหากว่าเป็นเช่นนี้ ประเทศชาติก็จะไม่ถูกหลอกลวง ซึ่งแน่นอนว่า ขณะที่ในบางสถานที่กลับถูกหลอกลวงอีกด้วย”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวเสริมว่า “หากว่า เราตระหนักถึงปัญหาต่างๆในโลก เราก็จะเข้าใจในเป้าหมายที่แท้จริงของศัตรูและเหตุผลจากการยืนกรานของเขาในปัญหาบางประการ  เช่นเดียวกันในปัญหาต่างๆ ซึ่งบรรดาเจ้าหน้าที่นั้น มีความรอบคอบและมีการดำเนินการอย่างถูกต้อง และมีความก้าวหน้าที่ดีอย่างมากของอิหร่านในประเด็นระดับภูมิภาคและในระดับโลก ซึ่งทำให้พวกอเมริกานั้นมีความโกรธเคือง ก็เป็นผลที่มาจากความรอบคอบนี้นั่นเอง”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การเปิดเผยในการปฏิบัติที่ต่อต้านอิสลามกับความแตกต่างทางภูมิศาสตร์ ชาติพันธุ์ ชนชั้น และความแตกต่างอื่นๆ ล้วนเป็นประเด็นขั้นพื้นฐานในภารกิจของฮัจญ์ โดยท่านกล่าวเสริมว่า “ประเทศต่างๆที่อ้างว่ามีอารยธรรม ซึ่งไม่มีกลิ่นไอของอารยธรรมอย่างแท้จริง ยังจะมีส่วนร่วมในการปะทะกันระหว่างกลุ่มชนผิวขาวกับผิวดำ และพวกยุโรปกับเหล่าผู้ที่ไม่ใช่ชาวยุโรป อีกทั้งการให้ความสำคัญกับสัตว์เลี้ยงของพวกตนนั้ยังมีคุณค่ามากกว่ามนุษย์บางคน  และการจมน้ำของบรรดาผู้อพยพในท้องทะเลอย่างต่อเนื่อง ก็เป็นสัญญาณของข้อเท็จจริงนี้”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า ความเสมอภาคและความเหมือนกันของบรรดาผู้แสวงบุญจากทุกเชื้อชาติ ทางประวัติศาสตร์และการมีวัฒนธรรมใดๆก็ตาม ก็เป็นหนึ่งในความลี้ลับของฮัจญ์อีกเช่นกัน โดยท่านกล่าวเสริมว่า “บรรดาเจ้าหน้าที่และผู้ที่มีประสิทธิผลในฮัจญ์ จะต้องสร้างวัฒนธรรมในลักษณะที่คำว่า ฮัจญ์นั้น จารึกอยู่ในจิตใจของทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บรรดาเยาวชนในปัจจุบันนี้ การกระตุ้นถึงแนวคิดขั้นพื้นฐาน เช่น การสร้างอารยธรรม ความเป็นเอกภาพในการเผชิญหน้ากับเหล่าผู้ฉ้อฉล การมีมุมมองที่ข้ามพรมแดนและการขจัดความเหลื่อมล้ำทางสังคมมนุษย์ในปัจจุบัน ซึ่งหากสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจริง ก็จะไม่มีผู้ใดที่มีความกังวลเกี่ยวกับผู้แสวงบุญว่า บางคนได้ไปตลาดเพื่อซื้อสินค้าที่ไร้ประโยชน์ มาเป็นของที่ระลึก”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังได้เน้นย้ำให้เห็นถึงการเข้าร่วมของผู้แสวงบุญชาวอิหร่านในการนมาซญะมาอะฮ์ร่วมกันในมัสยิดอัล-ฮะรอม และมัสยิดอัน-นะบี (ศ็อลฯ) และการสื่อสารและการพูดคุยกับเหล่าผู้แสวงบุญอื่นๆ โดยท่านผู้นำกล่าวเสริมว่า “เป็นสิ่งที่ดีอย่างมากที่จะมีการจัดพิธีการอ่านดุอาอ์กุเมล เป็นหมู่คณะ ในขณะเดียวกัน ก็มีการเคลื่อนไหวครั้งยิ่งใหญ่ในการประกาศตัดขาดความสัมพันธ์จากเหล่าผู้ตั้งภาคี เช่นกัน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในศักยภาพที่กว้างขวางและมีความลึกซึ้งของฮัจญ์ ที่จะต้องมีการดำเนินการต่อไปอย่างต่อเนื่อง”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การได้รับชัยชนะของการปฏิวัติอิสลาม เป็นสาเหตุของการยอมรับและการฟื้นฟูศักยภาพของภารกิจบางประการของพิธีฮัจญ์ โดยท่านกล่าวเสริมว่า “เราจะต้องพยายามที่จะฟื้นฟูศักยภาพเหล่านี้ทั้งหมดและการใช้ประโยชน์เพื่อให้บรรลุสู่เป้าหมายขั้นพื้นฐานของพิธีฮัจญ์”

ช่วงเริ่มต้นของการพบปะกันครั้งนี้ ฮุจญตุลอิสลาม วัลมุสลิมีน ซัยยิดอับดุลฟัตตาฮ์ เนาวาบ ตัวแทนผู้นำสูงสุดในกิจการฮัจญ์และการซิยารัต ได้กล่าวอธิบายถึงอธิบายมิติต่างๆของคำขวัญในพิธีฮัจญ์สำหรับปีนี้แก่ผู้แสวงบุญชาวอิหร่าน ภายใต้หัวข้อ “ฮัจญ์ คือ การเปลี่ยนแปลงในอัลกุรอาน ความร่วมมือของอิสลาม และการสนับสนุนอัลกุดส์อันทรงเกียรติ”

นายซัยยิดอับบาส ฮุซัยนี ผู้อำนวยการองค์กรฮัจญ์และการซิยารัต ยังได้กล่าวอธิบายถึงมาตรการที่ได้ใช้ในการปรับปรุงกระบวนการและการปรับคุณภาพของการให้บริการแก่บรรดาผู้แสวงบุญ ณ บัยตุลลอฮ์อัล-ฮะรอม

700 /